การวิจัยครั้งสำคัญของ มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ของอเมริกา นักวิจัยได้ทดลองปล่อยใหเด็กๆ อยู่ในห้องตามลำพัง และแจกขนม “มาร์ชมาลโล่” ให้เด็กคนละก้อน จากนั้นเสนอให้เด็กเลือกว่าจะกินมันเข้าไปทันที หรือจะคอยอีกสิบห้านาที และแน่นอนถ้าเด็กคนไหนอดทนรอคอยจนครบ 15 นาทีได้ พวกเขาจะได้ขนมมาร์ชมาลโลว์เพิ่มอีกหนึ่งชิ้น
.
….. ซึ่งจากการทดลองพบว่า เด็กบางคนกินขนมมาร์ชมาลโล่เข้าไปทันที และมีบางคนเลือกที่จะรอคอยอีก 15 นาทีเพื่อได้รับมาชมาลโลว์เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งชิ้น
.
….ผลการวิจัยไม่ได้จบลงแค่ในห้องการทดลอง นักวิจัยได้ติดตามพฤติกรรมเด็กเหล่านั้นอย่างต่อเนื่องยาวนาน จนได้พบว่า
เด็กกลุ่มที่สามารถอดทน รอคอย ยับยั้งหักห้ามใจไม่กินขนมมาร์ชมาลโลว์ได้นั้น มีผลการเรียนที่ดีกว่า
สามารถเข้ากับคนอื่นได้ดีกว่า และจัดการกับความเครียดได้ดีกว่าเด็กที่ไม่สามารถห้ามใจตัวเองไม่ให้กินขนมมาร์ชมาลโลว์ชิ้นแรกได้
และที่สำคัญเด็กเหล่านั้นกลายเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตมากกว่า กลุ่มเด็กที่ไม่สามารถยับยั้งใจได้อย่างมากมาย
….เรื่องนี้ให้แง่คิดสอนใจได้ว่า
“หากคุณกินทุกสิ่งทุกอย่างหมดในวันนี้ ผลที่ได้คือคุณจะไม่เหลืออะไรเลยในวันพรุ่งนี้…”
การห้ามใจไม่รีบกิน “มาร์ชมาลโลว์” เป็นเรื่องที่ยากมากที่จะทำได้ เพราะคนทั่วไปส่วนใหญ่จะมุ่งความสนใจไปที่ความพึงพอใจแบบฉับพลัน ผลตอบแทนหรือกำไรแบบฉับพลัน ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจเลือกทำอะไรลงไป จงคิดไตร่ตรองให้รอบคอบ เพราะสิ่งที่เราคิด และสิ่งที่เลือกที่จะทำ มันจะส่งผลในอนาคตของเราอย่างแน่นอน
…..การเป็น “นักเก็บเงินตัวยง” ดีกว่า การเป็น “นักจ่ายเงินตัวยง” ถ้าคุณเก็บมาร์ชมาลโลว์ไว้ คุณจะบรรลุเป้าหมายของคุณ
ถ้าคุณรียบกินมาร์ชมาลโลว์ของคุณ คุณจะไม่มีวันบรรลุเป้าหมายได้เลย
…..เส้นทางไปสู่ความสำเร็จ มีหลายเส้นทาง แต่ความสำเร็จที่ยั่งยืนอย่างแท้จริงนั้น มาจากความอดทน ความมานะพยายาม และสายตาที่มุ่งไปยังเป้าหมายในระยะยาว
….. ข้อสรุปคือ – ความแตกต่างที่สำคัญของความสำเร็จและความล้มเหลว ไม่ได้อยู่ที่การทำงานหนักหรือมีสติปัญญาที่เหนือกว่าคนอื่น แต่อยู่ที่ความสามารถในการ “ห้ามใจตัวเองให้ชะลอความพอใจลงก่อน หรือการรู้จักอดทน รอคอย อดเปรี้ยวไว้กินหวาน”
ซึ่งเปรียบไปกับเด็กกลุ่มที่ ห้ามใจไม่รีบกิน มาร์ชมาลโลว์ก่อน และกลายเปนพื้นฐานจิตใจที่นำไปสู่ความสำเร็จในอนาคตนั่นเอง
…..เรื่องนี้ประยุกต์ใช้กับการเทรดได้ดีทีเดียว เพราะส่วนตัวผมมันยกเรื่องนี้มาเตือนใจตัวเองเสมอ ว่า…
“ถ้าเราไม่รู้จักรอคอยเวลา …วันหน้าเราจะไม่เหลือเวลาให้รอคอย”
…..ถ้าอยากประสบความสำเร็จต้องรู้จักรอคอยอย่างใจเย็น ไม่บุ่มบ่ามผลีผลาม
ความใจร้อนไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น ตรงกันข้ามกับจะกลายเป็นเชื้อไฟชั้นดีที่จะแผดเผ่าความสำเร็จในอนาคตให้มอดไหม้ลงไป
พอคิดได้อารมณ์ก็เย็นลงไม่ผลีผลามด่วนตัดสินใจในการเปิด/ปิดออร์เดอร์
พอใจเย็นก็ได้สติในการคิดไตร่ตรอง ทบทวนการตัดสินใจให้ละเอียดรอบคอบมากขึ้น ความผิดพลาดก็ลดน้อยลงไปโดยปริยาย